Project-Based
Learning
การจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน
การจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน
การจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน
การจัดการเรียนรู้ที่ใช้โครงงาน
เป็นวิธีการจัดการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญวิธีการหนึ่งที่จะช่วย พัฒนาผู้เรียนทั้งด้านความรู้และทักษะผ่านการทางานที่มีการค้นคว้าและการใช้ความรู้ในชีวิตจริงโดยมีตัวผลงานและการแสดงออกถึงศักยภาพจากการเรียนรู้
การเรียนรู้ด้วยโครงงานจะถูกขับเคลื่อนโดยมีคาถามกาหนดกรอบการเรียนรู้ที่เป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างมาตรฐานการเรียนรู้กับทักษะการคิดขั้นสูงเข้าสู่
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง
หน่วยการเรียนรู้แบบโครงงานจะประกอบไปด้วยกลวิธีการสอนที่หลากหลายที่จะทำให้ผู้
เรียนทั้งหมดเกิดการเรียนรู้ แม้จะมีวิธีการเรียนรู้ที่ต่างกันก็ตาม
นักเรียนสามารถขอความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญภายนอกหรือชุมชนเพื่อคลี่คลาย
ปัญหาหรือเนื้อหาความรู้ที่ลึกซึ้ง
ส่วนการบูรณาการเทคโนโลยีและกระบวนการประเมินที่หลากหลายก็จะเป็นตัวช่วย
เสริมให้ผลงานของนักเรียนมีคุณภาพสูงยิ่งขึ้น
การจัดการเรียนรู้ด้วยโครงงานเป็นรูปแบบวิธีสอนที่จะนำนักเรียนเข้าสู่การแก้ปัญหาที่ท้าทายและสร้างชิ้นงานได้สำเร็จด้วยตนเอง
โครงงานที่จะมาช่วยสร้างสภาวะการเรียนรู้ภายในชั้นเรียนจะเกิดได้ในหลายกลุ่มสาระการเรียนรู้
ในหลายเนื้อหาและในหลายระดับช่วงชั้น โครงงานจะเกิดขึ้นบนความท้าทายจากคำถามที่ไม่สามารถตอบได้จากการท่องจำ
โครงงานจะสร้างบทบาทหลากหลายขึ้นในตัวนักเรียนเป็นผู้ที่แก้ปัญหา คนที่ตัดสินใจ
นักค้นคว้า นักวิจัย โครงงานจะตอบสนองต่อวัตถุประสงค์ที่เฉพาะเจาะจงทางการศึกษา
ไม่ใช่สิ่งที่แปลกแยกหรือเพิ่มเติมลงไปในหลักสูตรเนื้อหาที่แท้จริง
ลักษณะเนื้อหาวิชาที่เหมาะสมสำหรับจัดโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน
ลักษณะของเนื้อหาวิชาที่เหมาะสำหรับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานนั้น
อาจจะต้องขึ้นอยู่กับกับว่าโครงงานที่ต้องการจัดนั้นเป็นประเภทไหน
ทั้งนี้โครงงานนั้นจะมีอยู่ 4 ประเภทหลัก ดังต่อไปนี้
1. ประเภทสำรวจรวบรวมข้อมูล
1. ประเภทสำรวจรวบรวมข้อมูล
2. ประเภททดลอง
3. ประเภทสิ่งประดิษฐ์
4. ประเภททฤษฎี
ซึ่งลองพิจารณาแต่ละประเภทแล้ว หากถามถึงความเหมาะว่าแต่ละประเภทนั้นมีความเหมาะสมสำหรับเนื้อหาประเภทใด ต้องพิจารณาเป็นรายประเภทไป ได้แก่
1. โครงงานประเภทสำรวจรวบรวมข้อมูล
โครงงานประเภทนี้จะเหมาะสำหรับเนื้อหาที่มีลักษณะ การสำรวจ ไม่ว่าจะเป็น พืชพันธุ์ไม้ในโรงเรียน ในท้องถิ่น พฤติกรรมด้านต่างๆ ของสัตว์ การสำรวจปัญหาสิ่งแวดล้อมในชุมชน การศึกษาลักษณะของอากาศในท้องถิ่น
2. โครงงานประเภททดลอง
โครงงานประเภทนี้จะเหมาะสำหรับเนื้อหาที่มีลักษณะ ปฏิบัติจริงกับปัญหาหรือข้อสงสัยของนักเรียนดำเนินการอบรม ทดลองสรุปผล วิเคราะห์ผลที่ได้ออกมา ซึ่งจะเป็นการใช้ทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์อย่างสมบูรณ์
ซึ่งลองพิจารณาแต่ละประเภทแล้ว หากถามถึงความเหมาะว่าแต่ละประเภทนั้นมีความเหมาะสมสำหรับเนื้อหาประเภทใด ต้องพิจารณาเป็นรายประเภทไป ได้แก่
1. โครงงานประเภทสำรวจรวบรวมข้อมูล
โครงงานประเภทนี้จะเหมาะสำหรับเนื้อหาที่มีลักษณะ การสำรวจ ไม่ว่าจะเป็น พืชพันธุ์ไม้ในโรงเรียน ในท้องถิ่น พฤติกรรมด้านต่างๆ ของสัตว์ การสำรวจปัญหาสิ่งแวดล้อมในชุมชน การศึกษาลักษณะของอากาศในท้องถิ่น
2. โครงงานประเภททดลอง
โครงงานประเภทนี้จะเหมาะสำหรับเนื้อหาที่มีลักษณะ ปฏิบัติจริงกับปัญหาหรือข้อสงสัยของนักเรียนดำเนินการอบรม ทดลองสรุปผล วิเคราะห์ผลที่ได้ออกมา ซึ่งจะเป็นการใช้ทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์อย่างสมบูรณ์
3. โครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์
โครงงานประเภทนี้ เป็นการประดิษฐ์สิ่งใดสิ่งหนึ่ง
เครื่องมือ เครื่องใช้ หรืออุปกรณ์เพื่อใช้สอยต่าง ๆ สิ่งประดิษฐ์อาจคิดขึ้นมาใหม่
ปรับปรุงหรือสร้างแบบจำลอง โดยประยุกต์หลักการทางวิทยาศาสตร์
ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ มีการกำหนดตัวแปรที่จะศึกษาและทดสอบประสิทธิภาพของชิ้นงานด้วย
4. โครงงานประเภททฤษฎี
โครงงานประเภทนี้ เป็นการใช้จินตนาการของตนเองมาอธิบายหลักการหรือแนวความคิดใหม่ๆ
ซึ่งอาจอธิบายในรูปของสูตรหรือสมการ
หรืออธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นและไม่สามารถอธิบายได้โดยหลักการเดิมๆ
การทำโครงงานประเภทนี้ ผู้ทำโครงงานจะต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี
จึงสามารถอธิบายได้อย่างมีเหตุผลและน่าเชื่อถือ
จึงไม่เหมาะที่จะทำในระดับนักเรียนมากนัก